Questions and Answers from Luang ta Maha Boowa Yannasampanno 
ทำไมหลวงตาบัวต้องออกป่ามาช่วยชาติ ?
(คัดจากคำเทศน์ในช่วงวันที่ 1-5 พฤษภาคม 2541)

           คำถาม    ได้ฟังธรรมะที่หลวงตาเมตตาได้แสดงออกแล้วว่า หลวงตาได้ปฏิเสธหรือไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกสงสาร หรือว่า ละโลกสงสารแล้ว แต่ในคราวนี้ เหตุใดหลวงตาจึงเมตตาได้ออกมาเป็นผู้นำในการช่วยชาติ?

           คำตอบ    เพราะเหตุว่า โลกสงสารยังยุ่งอยู่ เราถึงจะพ้นจากโลกสงสารไปแล้วก็ตาม แต่เราอยู่ในโลกสงสารในเมืองไทยของเรา เมื่อเห็นโลกสงสารกำลังยุ่งยากปากหมอง ต้องได้ช่วยกัน เพราะฉะนั้น จึงต้องได้ออกมาจากป่าจากเขาสู่เมืองไทยของเรา เพื่อช่วยชาติ จึงได้ขวนขวายมาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

           คำถาม    มหาชนได้ฟังธรรมะจากหลวงตาแล้ว พอที่จะมีความหวังบ้าง แต่ก็ต่างพากันกล่าวว่าวิกฤตการณ์ครั้งนี้ หลวงตาได้โปรดเมตตาให้กำลังใจว่า จะผ่านได้ แต่ว่ามหาชนนั้นต่างก็ถามว่า เอ๊   จะผ่านได้อย่างไรกัน

           คำตอบ    มหาชนผู้ที่ว่าผ่านไม่ได้นั้น คือ เขาไม่บริจาค เขาไม่ทำมีแต่พูดปากเป่าเฉยๆ พวกนี้ พวกไม่ช่วยอะไรกับใครหละ ผู้ที่จะเอาจริงๆ ต้องเป็นผู้ที่ต่อสู้ไปเลย ปากไม่ปาก พูดไม่พูด ไม่สำคัญ มีเท่าไรสละมาเลย พวกนี้เป็นพวกที่จะยกชาติบ้านเมืองขึ้นให้ออกจากหล่มลึกขึ้นได้โดยไม่สงสัย แต่พวกที่วิพากษ์วิจารณ์ไปเฉยๆ โดยไม่ได้ทำงานทำการอะไร ถ้าเป็นนักมวยก็ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเวที พวกนี้พวกใช้ไม่ได้ คนที่เค้าไปชมมวยเค้าจะไล่แห่เห่หลงทิศไปหละ คนประเภทนี้นะ ถูกเห่ทั้งนั้นหละ แต่คนประเภทที่ขึ้นต่อยแล้ว แพ้ชนะค่อยรู้กันบนเวทีนั้น เป็นประเภทที่เอาจริงเอาจังเหมือนอย่างพวกเราทั้งหลาย (ที่มาบริจาคเงินทอง) นี่ พวกเอาจริงเอาจัง นี่หลวงตาซึ่งเป็นหัวหน้านี้ เรียกว่า หัวหน้าแบบเอาชีวิต เอาคอเข้าแลกเมืองไทยเลย ได้สละมาแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง เราไม่ได้เสียดายอะไรในโลกนี้ สามแดนโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรมาติดมาข้องในหัวใจของเรา สิ่งที่ติดข้องก็คือ ความห่วงใยประชาชนชาติไทยของเรา ซึ่งกำลังอยู่ในที่หล่มลึกก็ว่าได้ จึงได้ต้องตะเกียกตะกายออกมาช่วยเหลืออย่างนี้ โดยเอาคอตัดเข้าไปเลย ถ้าหากว่าเมืองไทยเรายังฟื้นไม่ได้ ยังขึ้นไม่ได้ด้วยกำลังความสามารถของเราและประชาชนที่ร่วมกันแล้ว หลวงตาบัวนี่ต้องคอขาด ถ้าท่านผู้ใดเสียดายคอหลวงตาบ้วแล้ว ให้ต่างคนต่างเสียสละทุกคนเพื่อสงวนคอหลวงตาบัวเอาไว้

           คำถาม    ที่นี้การดิ้นรนช่วยชาติครั้งนี้ หลวงตาได้เมตตาเทศน์ว่า ไม่ใช่ดิ้นรนช่วยชาติแบบลูกกำพร้า หรือว่าลูกไม่มีพ่อ หมายความว่าอย่างไรครับ

           คำตอบ    อ๋อ หมายความว่า เรามีพ่อมีแม่ มีพี่มีน้องช่วยกัน ที่ว่าพ่อแม่ของเรา ก็ศาสนา หนึ่งก็คือ หลวงตาบัวเป็นผู้นำ พระมหากษัตริย์ พระญาติพระวงศ์ ก็ต่างทรงอนุโมทนาเสด็จมาเป็นประธานในงานนี้ จึงเรียกว่า เป็นมหาอุดมมงคลอย่างยิ่งต่องานโครงการเปิดชาติ เปิดช่วยการช่วยชาติของเรา ตั้งแต่เริ่มต้น มีความสมบูรณ์พูนผลอุดมสมบูรณ์ เราไม่ได้ทำอะไรแบบมีแต่ลูกกำพร้า คือมีตั้งแต่ประชาชนราษฎร ส่วนทั้งหลายที่เป็นพี่หรือเป็นพ่อเป็นแม่ เช่น พระมหากษัตริย์ ศาสนา ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องเลย เรียกว่า พวกเราเป็นลูกกำพร้า หาทำตั้งแต่พวกเราคนเดียวอย่างนี้ ไม่เกิดประโยชน์อะไร ไม่มีศักดิ์ศรีดีงาม แต่นี้เราพร้อมแล้ว ทั้งศาสนา ทั้งพระมหากษัตริย์ ที่ช่วยเรา พระพุทธเจ้าก็ทรงพระเมตตาส่งหลวงตาบัวมาแทนพระองค์ และมีพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เจ้าฟ้าหญิง นี้เป็นพระญาติพระวงศ์ เสด็จมาโปรดในงานนี้ เพื่อเป็นกำลังใจของเรา เพื่อความอบอุ่นของเรา เพื่อแสดงพระองค์ด้วยว่า เป็นผู้นำในการช่วยชาติคราวนี้เต็มพระทัยพระองค์    พวกเราจึงมีความอบอุ่น มีกำลังใจ เพราะท่านมาให้กำลังใจ มาให้ความอบอุ่น มาให้ความร่มเย็นแก่พวกเราทั้งหลาย งานนี้จึงเป็นงานสมบูรณ์พูนผลด้วย มีทั้งพ่อ ทั้งแม่ มีทั้งลูก ทั้งหลาน มีทั้งประชาชนราษฎรพร้อมเพรียงกัน เราจึงแน่ใจว่า งานนี้ต้องผ่านได้ไม่สงสัย ผู้ที่ว่าผ่านไม่ได้คือเขาไม่ทำ ผู้ที่ทำนั้นแลคือ ผู้ที่จะผ่านได้ ผู้ที่ว่ายนั่นแหละ คือ ผู้ที่จะพ้นได้ ผู้ที่จะจม นอนจมน้ำตายเฉยๆ ไม่ว่าย อันนั้นเป็นไปไม่ได้นะ ยังไงต้องจมน้ำแน่ๆ ผู้ที่มีแต่คำพูด มีแต่ลมปากเฉยๆ ว่าจะเป็นไปไม่ได้อย่างนั้นอย่างนี้ พวกนี้ เราอย่าไปเชื่อมัน ลมปากอันนี้ ลมปากล้มเหลว ลมปากทำลายชาติไทยของเรา ต้องเอาลมปากที่เอาจริงเอาจัง อย่างที่พูดเวลานี้ พูดด้วยความจริงจัง พูดถอดออกมาจากหัวใจโดยแท้ ที่จะช่วยพี่น้องชาวไทยทั้งหลายให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เอาจนกระทั่งถึงคอหลวงตาบัวขาดดิ้นก็ไม่ถอย เพราะฉะนั้น ขอให้พี่น้องทั้งหลายจงช่วยสงวนคอของหลวงตาบัวไว้ อย่าให้ขาดไปเฉยๆ แต่ลำพังหลวงตาบัวคนเดียว ถ้าขาดให้ขาดพร้อมกันหมดทั้งชาติไทยของเรา จะมีชื่อเสียง มีเกียรติศัพท์ เกียรติคุณ มีศักดิ์ศรีดีงามว่าชาติไทยนี้ เป็นชาติที่พลีชีพจริงๆ คอไม่เสียดาย   เอาหละ  เพียงเท่านี้ก่อน

           คำถาม    หลวงตาครับ ยังมีอีกครับ บ้างก็ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ตามภาษาของมนุษย์ปุถุชนนะครับว่า เรื่องอย่างนี้จะใช่กิจของสงฆ์ไหมครับ

           คำตอบ    พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า มหาการุณิโกนาโถ  หิตายะ สัพพะปาณินังฯ นี้แปลว่ายังไง คนที่พูดนั้นพูดไม่ได้แปลหนังสือ ไม่ได้ดูศาสนา ไม่ได้เห็นศาสนาสักคำเดียว มันพูดป่าๆ เถื่อนๆ อันนี้นำเรื่องศาสนา นำหัวใจของพระพุทธเจ้ามาแสดงให้โลกทั้งหลายได้เห็น แปลในใจความที่ว่า มหาการุณิโกนาโถ หิตายะ สัพพะปาณินังฯ นี้ พระพุทธเจ้าท่านทรงมีพระกรุณา มีพระเมตตามหากรุณาธิคุณแก่โลก และทำประโยชน์แก่โลกอย่างไม่มีใครเป็นคู่แข่งเลย เรียกว่า หาประมาณไม่ได้ นี้คือ ศาสดาองค์เอกที่นำโลก ท่านเกี่ยวข้องกับศาสนาหรือไม่ มีเมตตาต่อโลกสงสาร ตลอดถึงสามไตรโลกธาตุ พระพุทธเจ้าทรงช่วยเหลือหมด นี่เราช่วยเหลือเมืองไทยเราอย่างนี้ เพื่อตามเสด็จพระพุทธเจ้าจะผิดที่ตรงไหน นอกจากผิดที่ปากของบุคคลที่หาเรื่องหาราว ตู่เข้ามาทำงานของเราทั้งหลายที่กำลังช่วยชาติอยู่เวลานี้ให้ล้มเหลวไปเท่านั้น นี่หละงานของสงฆ์โดยตรงเข้าใจหรือเปล่า ให้รู้เสีย นี่งานของสงฆ์ พระพุทธเจ้าช่วยโลกไม่ได้ ไม่มี ธรรมช่วยโลกไม่ได้ ไม่มี พระสงฆ์ช่วยโลกไม่ได้ ไม่มี พระพุทธเจ้าเป็นนักเสียสละ พระธรรมเป็นธรรมสง่างามด้วยความเสียสละ เมตตาคุณเต็มอยู่ในธรรมนั้นหมด พระสงฆ์เป็นนักเสียสละ เป็นนักเมตตาอย่างยิ่ง คือ พระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกของศาสดา ถ้าท่านเหล่านี้ไม่ไมีเมตตาแล้ว ประชาชนจะหาความร่มเย็นมาจากไหน แต่จะขาดที่พึ่ง ไม่มีที่พึ่ง ถ้าศาสนาไม่มาเกี่ยวกับโลกเสียอย่างเดียวแล้ว โลกนี้หาความหมายไม่ได้เลย เหมือนกับสัตว์ตัวหนึ่ง ที่ตายกองกันอยู่ หายใจแขม่วๆ เท่านั้น ไม่มีคุณค่ามีราคาในลมหายใจเลย นี้พวกเราทั้งหลายก็รับความร่มเย็นจากพุทธศาสนาเรื่อยมา เพราะความเมตตาสงสารของพระพุทธเจ้าที่ประทานโอวาทให้พวกเราทั้งหลายได้นำมาประพฤติปฏิบัติและกำจัดสิ่งที่มัวหมองทั้งหลาย ซึ่งเป็นภัยต่อศาสนาและต่อตัวของเรา พระพุทธเจ้าจึงเป็นเอกของโลกในการทำประโยชน์ให้แก่โลกแก่สงสาร พระสงฆ์เป็นประโยชน์ต่อโลกอย่างมากมายที่สุด เนีย คำพูดอย่างที่ว่าข้างต้นนั้น ให้พากันไปดูคัมภีร์เสียก่อนนะ แล้วค่อยมาโต้กับหลวงตาบัวใหม่ คราวนี้เปิดอกให้โต้นะ ให้ไปดูคัมภีร์เสียก่อน คัมภีร์ว่ายังไง ตั้งแต่เกิดมานั้น เคยได้เห็นศาสนาหรือยัง ศาสนาท่านสอนว่ายังไง เท่านั้นหละพอ

           คำถาม    มีอีกเรื่องครับที่พูดกันมากครับ ว่าทำไมหลวงตาถึงไม่ทำวัตถุมงคลละครับ ไม่งั้นงานนี้จะมีผู้เข้าร่วมอีกมากทีเดียวละครับ

           คำตอบ    พวกที่เข้าร่วมมากนั้นแหละที่มันจะแฝงกันมาเข้าทำลายได้มากที่สุด การทำวัตถุมงคลออกไปนี้ พอหลวงตาบัวทำวัตถุมงคลออกไป คนนั้นก็วัตถุมงคลหลวงตาบัว คนนี้ก็วัตถุมงคลหลวงตาบัว หารายได้เต็มบ้านเต็มเมือง สุดท้ายเงินก็ไม่ได้เข้าคลังหลวง แต่ออกไปกระเป๋าของพวกที่ทำวัตถุมงคล หลวงตาบัวทั้งนั้นแหละ ไม่เกิดประโยชน์อะไร นี้คือการทำลายอย่างยิ่ง เราจึงไม่ทำเพราะเป็นทางที่จะทำลายชาติไทยเรา ซึ่งเวลานี้กำลังช่วยเหลืออยู่อย่างเต็มที่ให้เสียไปอย่างป่นนี้ เราจึงไม่ทำสิ่งเหล่านี้ เพราะจะเป็นการทำลายการช่วยชาติของเราให้เสียไปโดยไม่มีปัญหาอะไรเลย การทำวัตถุมงคลนั้น มันเป็นช่องหาเงินของคน เมื่อทำลงไป สมมติว่าหลวงตาบัวให้ทำมงคลนี้แล้วนะ คนนั้นก็มงคลหลวงตาบัว คนนี้ก็มงคลหลวงตาบัว หมดทั้งชาติไทยเลยมีแต่มงคลของหลวงตาบัว หาผู้ที่ขนเงินเข้าคลังหลวงเลยไม่มี มีแต่คนขนเงินเข้ากระเป๋าหลวงตาบัวด้วยวัตถุมงคล  ทั้งนั้น  เพราะฉะนั้น เราจึงไม่ทำ เพื่อกันสิ่งเหล่านี้จะมา ไม่ให้มาทำลายการช่วยชาติของเรา เพื่อให้การช่วยชาตินี้เป็นไปโดยสมบูรณ์พูนผล การที่พาพี่น้องทั้งหลายทำอย่างนี้ เป็นมงคลอันสูงสุดแล้ว เราจะหามงคลที่ไหนอีก    หลวงตาบัวจะมีมงคลวิเศษวิโสมาจากไหน นอกจากนำธรรมของพระพุทธเจ้ามาชี้แจงต่อพี่น้องทั้งหลายทราบ  เพื่อเป็นมงคลอันสูงสุดในหัวใจแล้ว ต่างคนต่างตะเกียกตะกายช่วยชาติของตนเท่านั้น อันวัตถุมงคลมันเกิดประโยชน์อะไร เวลานี้มีแต่วัตถุมงคลเต็มบ้านเต็มเมือง แล้วเป็นยังไง วัดไหน หลวงตาองค์ไหน พระองค์ไหนที่มีวัตถุมงคลมากๆ นั้น เป็นผู้ได้อิทธิพลทางด้านจิตใจในทางธรรมะ ให้ความร่มเย็นแก่โลกได้มากน้อยเพียงไร พระพุทธเจ้าไม่จำเป็นจะต้องมีฤทธิ์วัตถุมงคล แต่พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ถึงใจของทุกคนชาวพุทธ ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจจามิ นี้ถึงใจของทุกคนชาวพุทธเรา นี่คือว่า วัตถุมงคลอันวิเศษอย่างยิ่ง ไม่มีอะไรมาเกินวัตถุมงคลอันนี้ เกินมงคลอันนี้ ให้พากันเข้าใจนะ    ถ้าหลวงตาบัวพูด ยังไม่ลงใจแล้ว ก็ไปหาเอา หินที่ทิ้งอยู่ตามถนนหนทาง มาเสกเป่ากันว่า นี่วัตถุมงคล วัตถุมงคลไปที่ไหนให้มีแต่หินแขวนคอคนอยู่เต็มไปหมดแล้วนั่น เอาละพอ

           คำถาม    ในวงการ ฝากให้เกล้ากระผมถามด้วยความเคารพว่า พระอริยเจ้านั้น มีวิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่นะครับ และการช่วยชาตินี้ เราจะถือเป็นวิหารธรรมได้หรือไม่ครับ

           คำตอบ    อ๋อ นี่หละ มหาเมตตาใหญ่อยู่ตรงนี้ เข้าใจหรือเปล่า วิหารธรรมแปลว่าธรรมเป็นเครื่องอยู่ของท่าน ท่านอยู่ในโลกด้วยความเมตตา เราขอเปิดอกให้ทันทีว่า เราอยู่โลกเวลานี้ เราอยู่ด้วยความเมตตาทั้งนั้น เพียงธาตุขันธ์ (ร่างกาย) ของเรา เราปล่อยเมื่อไรก็ได้ เราไม่ได้เสียดาย เพราะนี้เป็นเพียงเครื่องมือที่เราใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่โลกเท่านั้น เราหมดอาลัยตายอยากทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความเสียสละตัดกิเลสออกจากหัวใจสิ้นสุดลงมาตั้งแต่ปี 2493 จนกระทั่งบัดนี้ ไม่มีปรากฏว่า กิเลสตัวใดได้มาผ่านหัวใจเราเลย เราครองบรมสุขมาตั้งแต่ปี 2493 เอ้า พูดตลอดวันเวลาด้วย วันแรม 14 ค่ำ เดือนหก เวลา 5 ทุ่มเป๋ง อยู่วัดดอยธรรมเจดีย์ (อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร) เป็นเวลาที่เราฟัดกับกิเลสตกเวที เราเผาศพกิเลสให้ม้วนเสื่อลงไป ทุกข์จึงหมด ม้วนเสื่อลงไปตามๆ กันตั้งแต่ขณะนั้น เราครองบรมสุขตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งถึงปานนี้ ทีนี้ ความเมตตาธรรมต่อโลกนี้เป็นวิหารธรรมของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายทั้งนั้น ปราศจากไม่ได้ ความบริสุทธิ์นี้จิตใจอ่อนนิ่มไปหมดไปทั่วโลกดินแดนครอบโลกธาตุ ด้วยอำนาจแห่งความเมตตาธรรมนี้ จึงสงสารไปหมดทุกหย่อมหญ้า อย่าว่าแต่สงสารมนุษย์เฉพาะอย่างยิ่งเมืองไทยนี้เลย *สามแดนโลกธาตุนี้ ท่านสงสารไปหมด ท่านอยู่ด้วยวิหารธรรมอย่างนี้แล อยู่กับโลก ท่านไม่ได้ห่วงใยอะไรกับโลก นอกจากสงสารสัตว์ทั้งหลาย และก็สงเคราะห์สงหาไปตามกำลังความสามารถที่จะเป็นไปได้ตามอำนาจวาสนาของผู้ใดที่จะเป็นไปได้มากน้อยเพียงไรเท่านั้น นี่เรียกว่า วิหารธรรมของพระอรหันต์ ท่านอยู่ด้วยการสงเคราะห์โลก ท่านไม่ได้อยู่ด้วยการพยายามสงเคราะห์ขันธ์ของท่าน เพราะขันธ์ของท่านไม่มีความหมายอะไร ทิ้งเมื่อไรก็ได้ เพราะเป็นถังขยะเท่านั้น ท่านพิจารณารอบคอบหมดแล้ว ปล่อยหมดแล้วไม่มีอะไรเหลือ จึงอยู่ด้วยอันนั้น นี่ก็อยู่ด้วยความห่วงใย ความเมตตาสงสารโลกเท่านั้น เราไม่ได้อยู่ด้วยความห่วงใยอิฐปูนหินทรายดินฟ้าอากาศอะไรทั้งนั้น กับผู้หนึ่งผู้ใดก็ตาม เราไม่เคยเป็นห่วงเป็นใยอะไรกับใครทั้งนั้น มีแต่ความเป็นห่วงโลกสงสารให้อยู่ด้วยกันด้วยความสงบสุขเท่านั้น เอา พอเป็นที่พอใจแล้วยัง ถ้ายังไม่เป็นที่พอใจ ก็ให้ถามอีก หลวงตาจะตอบอีก
           (*สามแดนโลกธาตุ : พรหม เทวดา มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรก*)

           คำถาม    ทีนี้  เมืองไทยจะรอดด้วยธรรมะข้อใดครับหลวงตา?

           คำตอบ    รอดด้วยธรรมะข้อ "สู้ไม่ถอย" นี่หละ เมืองไทยรอดจริงๆ หลวงตานี่มานี่เพื่อนำ เป็นผู้นำด้วยการสู้ไม่ถอย เราจึงมีความหวัง เมืองไทยเราจะไปรอด ไม่รอดไม่ออกมาสู้ สู้จนคอขาด เอ้า ถ้าหากว่าคอมันจะขาด เอ๊า ให้มันขาดไป แต่การสู้ สู้ไม่ถอย สู้จนคอขาด อย่างไรก็รอด เมืองไทยเราขอให้พี่น้องทั้งหลายต่างคนต่างช่วยกันก็แล้วกัน ถ้าต่างคนต่างสู้ ต่างคนต่างวิพากวิจารณ์ อันนี้มันลมปาก นี่คือการทำลายเมืองไทยของเรา เอา ให้เอาจริงเอาจังทุกคน เมืองไทยเรานี่ ใครทำให้ฉิบหายล่มจมลงไป ก็คนในชาติของเรานี้มิใช่หรือ แล้วคนไทยทั้งชาติร่วม รวมหัวกันยกเมืองไทยขึ้น ทั้งประเทศ ทำไมจะไม่ได้ เมืองไทยเราไม่ใช่เป็นเมืองอ่อนแอท้อแท้เหลวไหล เป็นเมืองไทยที่เด็ดเดี่ยวอาจหาญ มีจิตใจที่กว้างขวาง เป็นนักเสียสละด้วยกันทั้งนั้น ต้องสู้ และแน่ใจว่าพ้นทีเดียว เป็นอื่นไปไม่ได้ เอาให้ต่างคนต่างช่วยกันเถอะ เอ๊า มีห้าให้บริจาคมาสิบ หลวงตายิ่งยินดี ถ้ามีห้าแบ่งมาสองสลึง นี่ยังไม่ยินดี มีห้าบาทเอามาสิบบาท ยิ่งพอใจ นี่รอดได้ง่ายที่สุดเลย เข้าใจ เอาละพอ

           คำถาม    หลวงตาได้โปรดกรุณาเมตตาแสดงอานิสงส์ของผู้ที่เข้าร่วมกันช่วยแก้วิกฤตการณ์บ้านเมืองครั้งนี้ด้วยเถิดครับ

           คำตอบ    นี่ยกตัวอย่างย่อๆ อานิสงส์อันนี้ คือ ความผาสุกร่มเย็น ความอิ่มอกอิ่มใจ ความแน่นหนามั่นคง ความอบอุ่นของใจเรา นี้คือ อานิสงส์แห่งการเสียสละมหากุศลในครั้งนี้ด้วยกันทุกคน ไม่มีกุศลใดที่จะเสมอเหมือน ในมหากุศลนี้ นี่เราสร้างมหากุศลเพื่อชาติของเรา สร้างอย่างอื่นยังไม่เรียกว่ามหากุศลอันสมบูรณ์แบบ   คือ สร้างที่ไหน เราสร้างกับบุคคลผู้ใด ให้ทานแก่บุคคลผู้ใด เสียสละแก่บุคคลผู้ใดก็ตาม เป็นเรื่องของบุคคลๆ ไป นี่เราสร้างเพื่อชาติ ศาสนาก็รวมอยู่ในนี้ สร้างหมดทั้งชาติ สร้างหมดทั้งศาสนา จึงเรียกว่า เราสร้างมหากุศลอันใหญ่หลวง อานิสงส์ของเราก็คือ ประเทศชาติบ้านเมืองของเรามีความอยู่เย็นเป็นสุข ใครชี้หน้าไม่ได้ง่ายๆ หน้าตาก็ผึ่งผาย ไปด้วยความองอาจกล้าหาญชาญชัย ไม่มีใครดูถูกเหยีดหยามได้ นี่คือ อานิสงส์แห่งการเสียสละ แห่งการช่วยชาติของเราเอ้า มีอะไรอีก ว่ามา  ก็เราเสียสละจริงๆ เนีย เราถึงได้เปิด ปีนี้เป็นปีที่เราเปิดอกเต็มที่ เพื่อประเทศไทยของเราจะให้เป็นที่แน่ใจว่าเราที่เป็นผู้นำนี่ เราขาดตกบกพร่องที่ตรงไหน เรื่องศีลเรื่องธรรมเราไม่มีขาดตกบกพร่อง เต็มตัวทุกอย่าง การเสียสละช่วยโลกช่วยสงสารตั้งแต่บวชมาเนี่ย มีเท่าไร ๆ ทุ่มลงหมดๆ เพื่อช่วยโลกช่วยสงสาร เราก็ทำมาเต็มเนื้อเต็มตัวของเรา จนไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว จนกระทั่งบัดนี้ เราก็ช่วยอย่างนี้ เราเอาจริงเอาจัง เราช่วยจริงๆ จังๆ เราไม่ได้ทำเล่น เพราะฉะนั้น ขอให้พี่น้องทั้งหลายจงเป็นที่แน่ใจเถิดว่า หลวงตาองค์นี้ไม่ได้พาพี่น้องทั้งหลายให้ล่มจม แต่จะพาให้มีความเจริญรุ่งเรืองผาสุก กระเตื้องเมืองไทยของเราให้ขึ้นสูงเด่นเท่านั้น มีอย่างเดียวเท่านั้น เอาละพอ
           ...(มีคนเข้ามาบริจาคสร้อยคอทองคำเป็นครั้งที่สอง) คนนี้ นี่ปลดสร้อยคอมาสองหนแล้วนะนี่ ขึ้นไปหากุฎิเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ปลดสร้อยคอให้แล้ว เราก็บอกตรงๆ เลยว่า นี่แหละอานิสงส์มาก ดึงออกมา แยกออกมาจากความตระหนี่ถี่เหนียว เพราะสร้อยอยู่ในคอมันต้องเสียดายคนเรา ความเสียดาย คือ กิเลส ที่นี้ธรรมะท่านลากออกมา ดึงออกมา แยกออกมาจากคอ เอามาสละทานซะ เลยชนะกิเลส กิเลสหมอบราบ ตอนนี้ยังไม่ลุกนะกิเลสหมอบราบ นี้เอาอีกแล้ว ให้กิเลสราบอีกแล้วนี่ เห็นไหม นั่น จึงเรียกว่า "นักรบ" ไม่ใช่ นักหลบ เอ้า  สู้ไม่ถอย อย่าถอย ...(มีอีกหลายรายต่างทยอยเข้ามาบริจาคทองคำ ดอลล่าร์ เงินบาทและสกุลต่างๆ ทั้งคนแก่ ผู้ใหญ่ เด็ก ฯลฯ) นั่นเห็นไหม เป็นมหามงคลไหม เห็นไหมเนี่ย ค้านกันได้ไหม เนี่ย เครื่องที่จะเชิดเมืองไทยขึ้น เห็นประจักษ์ ประจักษ์อยู่อย่างงี้ เมืองไทยจะจมไปไหน เมืองไทยจะไม่สำเร็จได้อย่างไร ก็ขึ้นอยู่นี่ เห็นอยู่นี่ เห็นประจักษ์อยู่ต่อหน้าต่อตานี่
           เอ้า ใครจะถามปัญหาให้ถามมา เราจะเปิดหัวอกให้ฟังทั่วประเทศไทย เวลานี้เราออกสนามแล้ว เพื่อประเทศไทยของเรา เราจะไม่มีสะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น เราเพื่อชาติ กำลังหัวใจนี้เพื่อชาติ มีกำลังมาก ไม่มีถอยทั้งนั้น อะไรมาสู้หมด ถ้าอะไรจะมาต่อต้านเมืองไทยเรา เป็นคอขาด หลวงตาบัวเอาให้คอขาด เข้าใจไหมล่ะ ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่าเป็นนักสู้เหรอ จะเรียกว่าเป็นผู้นำได้หรือ ผู้นำมีลักษณะเช่นไร มีกิริยาท่าทางอย่างไร มีความแน่นหนามั่นคงยังไงบ้าง ต้องนำปูมหลังผู้นำมาซิ เป็นยังไง นี่ได้ชี้แจงปูมหลังให้ทุกท่านได้ฟังแล้ว เป็นยังไง เป็นที่พอใจไหม เราพอใจในเราเต็มที่แล้ว เราจึงได้ออกมาสนาม รบความจนทั้งหลายเพื่อประเทศไทยของเรา
           อย่างที่มอบ (เงินทอง) นี่มาให้เราเหมือนกัน เราไม่ได้เชื่อใครง่ายๆ เราไม่ได้มอบให้ใครง่ายๆ ถ้าไม่ได้ลงใจของเราแล้ว เราจะไม่มอบ หัวขาดก็ขาดไปเลย ความสัตย์ความจริงฝากไว้กับพี่น้องทั้งหลายจนชั่วกัลปาวสาน ไม่มีเวลาที่จะถดถอยลงหละ สู้วันยังค่ำ ตายก็ตายเถอะ  เราตายเพื่อศีลเพื่อธรรม เพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อโลกเพื่อสงสาร เพื่อความเมตตา เราพอใจตาย...
           เราคิดเรียบร้อยแล้ว...ไม่ได้ทำสุ่มสี่สุ่มห้านะ ทำอะไร ทำด้วยความพินิจพิจารณา และตามธรรมด้วยนะ ไม่ได้แบบโลกๆ นะ ไม่ได้พิจารณาแบบโลกๆ แต่พิจารณาแบบธรรมอย่างละเอียดลออ ก่อนที่จะออกมาปฏิบัติแต่ละอย่างๆ นี้ พิจารณาเรียบร้อยแล้ว เรียบร้อยแล้ว อย่างที่นำออกมาเป็นผู้นำนี้ ก็พิจารณานอกจะแตกแล้ว...
           พระเป็นผู้นำในเมืองไทยของเราไม่เคยมีหละ ได้เห็นแล้วนี่ เราออกสนามเสียเอง ให้พากันตื่นเนื้อตื่นตัวนะ ทำไมจึงออก? ไม่จำเป็นจริงๆ ออกมาทำไม? ออกมาอย่างนี้หละ เรายังได้อุตส่าห์ออกมา มาช่วย ให้พากันเอาไปคิดให้ดีนะ ไม่ควรออกมาไม่ออกมา มันเป็นยังไงเมืองไทยเรา จึงได้ต้องออกมาช่วย ให้คิดอย่างนี้ ให้ต่างคนต่างสละ อย่าหึงอย่าหวง อย่าห่วงอย่าใย อย่าตระหนี่ถี่เหนียวจนลืมชาติบ้านเมืองของตัวเอง แล้วก็จมไป เศรษฐีจมมีเยอะ ถ้าบ้านเมืองจมแล้ว มหาเศรษฐีก็อยู่ไม่ได้ จมไปด้วยกันนั่นแหละ ร้อนเป็นไฟไปเหมือนกันหมด...
           ถ้าหากว่าพวกเราช่วยกันไม่ได้คราวนี้แล้ว จะหมดหวังนะ ฟังให้ดีคำนี้ คราวนี้เป็นคราวสำคัญมาก  เรียกว่า เป็นคราวสุดท้ายของพระที่เป็นผู้นำก็ได้ ไม่ผิด เราจะไม่ช่วยต่อไปอีกแล้ว เลยจากนี้แล้ว เราก็หยุด เราไม่พร่ำเพรื่อ ซ้ำๆ ซากๆ เราจะช่วยครั้งนี้เท่านั้น แล้วชีวิตเราก็ผ่านไป
           ลงศาสนา พระมหากษัตริย์มาเป็นหัวหน้า เป็นพ่อบ้าน พ่อเมือง พ่อประเทศนำหน้าแล้วยังไม่เป็นท่าแล้ว ก็แสดงว่าเหลวไหลมาก เมืองไทยเรา...ตั้งหน้าตั้งตาช่วยชาติบ้านเมืองจนกระทั่งจะเป็นประวัติศาสตร์แล้วนี่ มาเหลวไหลเหลวแหลกอยู่ ใช้ไม่ได้นะ ไม่สมชื่อสมนาม แล้วขายพระพุทธเจ้าด้วย ขายองค์พระมหากษัตริย์ด้วย ที่ทรงมาเป็นประธานให้ความร่มเย็น ให้กำลังใจ ให้ความอบอุ่นแก่พวกเรา ไม่สมชื่อสมนามที่พระองค์เสด็จมา และพระพุทธเจ้าจัดเราให้มาแทนพระองค์ ต้องเอาให้จริงให้จัง
           ขายประเทศไทยเราทั้งประเทศแล้วยังไม่แล้ว ขายหน้าทั้งหมดเลย มันดูไม่ได้นะ จมไปหมด ตลอดพระราชามหากษัตริย์ก็ต้องจมไปตามเรา ศาสนาก็จมไปด้วยกัน ดูไม่ได้เลยนะ มาหาคุณค่าราคาอันสูงสุดของสามประเภทที่กล่าวมาแล้วนี้ จมไม่ได้ ถ้าเมืองไทยเราไม่จม  ไม่ยอมให้ธรรมชาติอันเลิศเลอทั้งสองสามประเภทนี้จม ถ้าเมืองไทยเรายังมีชีวิตอยู่ เอาให้ได้นะ อย่าให้จม?
          


หน้าแรก (Home) / คำปรารภของหลวงตา / ภาพกิจกรรม / ประวัติย่อฯ ของหลวงตา / ธรรมของหลวงตา / บริจาค